สวนผักในบ้าน' ทั้งประหยัด-ปลอดภัย
ก่อนที่
คนไทยจะหันมาให้ความสนใจกับทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
ช่วงหนึ่งรัฐบาลเคยมีโครงการรณรงค์ผักสวนครัวรั้วกินได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนอกจากจะไม่มีผักริมรั้วแล้ว
ลัทธิบริโภคนิยมที่มีความสะดวกสบายนำหน้า
ดูเหมือนจะทำให้ครัวของหลายบ้านมีไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์หลักเพื่อใช้ในการอุ่น
อาหารเท่านั้น
แต่
ใช่ว่าเรื่องการปลูกผักสวนครัวไว้ในเขตเคหสถานจะจบลง
เพราะขณะที่ใครต่อใครต่างพากันซื้อผักจากตลาดบ้าง รถเร่บ้าง
หรือซูเปอร์มาร์เกตบ้าง คนบางกลุ่มกลับมีวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไป
พวก
เขามีความสุขกับการค่อยๆ
หว่านเมล็ดพันธุ์ลงในดินที่ถูกปรับให้เป็นแปลงผักในรั้วบ้าน
เฝ้าดูต้นกล้าที่กำลังเติบโตอยู่ในภาชนะที่ไม่ใช่กระถางต้นไม้
เพราะมีทั้งถังแตกที่ไม่สามารถใช้บรรจุน้ำได้แล้ว
ตะกร้าที่เคยใช้ใส่เส้นขนมจีนมาส่งขายที่ตลาด
ไปจนถึงยางนอกรถยนต์หมดอายุการใช้งานที่ถูกปาดด้านหนึ่งออก
“แต่ก่อนผมก็ไม่เคยปลูกต้นไม้ พอมาเรียนที่คณะเกษตรกรรมยั่งยืน
ม.ธรรมศาสตร์ และได้ไปฝึกงานที่ออสเตรีย
ประเทศทำการเกษตรแบบดั้งเดิมคือเกษตรอินทรีย์ถึงร้อยละ 10
ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นประเทศที่มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์มากที่สุดในยุโรป
จึงทำให้เกิดแรงบันดาลใจให้กลับมาปลูกผักสวนครัวในบ้านบ้าง” นคร ลิมปคุปตถาวร หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายตลาดสีเขียว บอกเล่า
แรง
บันดาลใจที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น
ทำให้เขากลับมาเปลี่ยนแปลงพื้นที่สวนด้านหนึ่งของบ้านให้เป็นแปลงปลูกผักสวน
ครัว
ซึ่งกว่าจะกลายเป็นสวนครัวอย่างที่เปิดให้ผู้ที่สนใจเยี่ยมชมอย่างทุกวันนี้
ต้องผ่านการเรียนรู้มากมาย
ตั้งแต่เรื่องสภาพของดินที่เหมาะสมกับพืชผักสวนครัว ปริมาณน้ำ
และที่สำคัญคือการคัดเลือกชนิดพันธุ์ที่จะนำมาปลูก
“การปลูกผักสวนครัวต้องถามใจตัวเองก่อนว่าอยากกินอะไร
เราพร้อมที่จะกินผักบุ้ง 5 วันหรือ 10 วันติดต่อกันได้หรือไม่ และ
เรามีความคิดใหม่ๆ ในการทำกับข้าวบ้างไหม”
เจ้าของสวนครัวขนาดย่อมในบ้านย่านลาดพร้าวที่เพียงพอเลี้ยงคนในบ้านในระดับ
หนึ่งให้คำแนะนำ
นอกจากนี้การปลูกผักสวนครัวไว้ภายในบ้านนั้น ไม่ใช่แค่การออกไปร้านจำหน่ายต้นไม้แล้วซื้อดินแบบ 6 ถุง 100
บาทมาใส่กระถางหรือภาชนะง่ายๆ ก็ปลูกได้ทันที
เพราะดินเหล่านั้นเหมาะสำหรับการปลูกไม้ดอกไม้ประดับมากกว่า
ขณะที่ผักสวนครัวต้องการความร่วนซุยของดิน
ให้ดินมีช่องว่างสำหรับอากาศถ่ายเท
และที่สำคัญที่สุดคือธาตุอาหารที่อยู่ในดิน
ปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ และดินชีวภาพที่ผ่านการหมักจนได้ที่
เป็นสภาพดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักสวนครัวมากกว่า
เพราะหากใช้ปุ๋ยเคมีผักสวนครัวที่ปลูกเองในรั้วบ้าน
ก็คงไม่ต่างจากผักที่ปลูกเพื่อการพาณิชย์จำนวนมากๆ
“การ
ปลูกผักในบ้านจะมีปัญหาเรื่องพื้นที่ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์หรือคอนโดมิเนียม
แต่ทาวน์เฮาส์บางแห่งก็สามารถปลูกต้นไม้ได้เยอะกว่าบ้านเดี่ยวด้วยซ้ำ
หากเปลี่ยนมาเป็นปลูกผักสวนครัวแทนนอกจากจะได้สีเขียวเหมือนกันแล้วยัง
สามารถนำมาบริโภคเพื่อลดความเสี่ยงในการบริโภคสารเคมีได้ด้วย"
ดร.วิชัย จันทร์กิติวัฒน์ ตัวแทนกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุ
ขณะที่ชาวตะวันตกเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการปลูกและบริโภคผักปลอดสารพิษ คนไทยกลับหลงใหลได้ปลื้มกับอาหารขยะที่เรียกกันว่า “จังก์ฟู้ด” ซึ่งล้วนแต่เป็นอาหารที่นำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บมากมาย จนหลงลืมรากเหง้าแห่งวิถีไทยที่เคยมีมา
ที่มา:หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
_______________________________________________________________________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น